วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ณ.ระนอง

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ทริปนี้คงต้องย้อนกันไกลเพราะเป็นความทรงจำที่ยากที่จะลืมเลือน
เพราะมันเป็นทริปที่ทุกคนประทับใจ เป็นทริปที่เต็มไปด้วยการพจนภัยที่สุดยอด
ที่สุดในการเดินทางของทุกคน....
เราเริ่มเดินทางสู่ระนองหลังจากเสร็จสิ้นการสอบปลายภาคต้นปี49 ตอนเรียนภาษาที่ปารามีแต
เป้าหมายของเราอยู่ที่น้ำตกโตนกลอย อ.สุขสำราญ
เรานั่งรถไฟจากยะลาไปหาดใหญ่ต่อด้วยรถทัวร์หาดใหญ่ระนอง
ถึงราชกรูดประมาณตีสาม แล้วต่อรถทัวร์กรุงเทพ-ภูเก็ต ไปยังอ.สุขสำราญ
เราถึงถึงบ้านของสหายมูฮัมหมัด ณ โตนกลอย เกือบซุบฮีพอดี....

เราใช้เวลาหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนและเตรียมสัมภาระที่ใช้ในเดินทางเข้าอุทธยานแห่งชาตฺิ...
(จำบ่ได๋ ชื่อรัย^_^)
วันต่อมา...เราออกเดินทางหลังมื้อเช้าเวลาแปดโมงกว่าๆ แต่อากาศตอนนั้นยังคงหนาวและมีหมอกเย็นชื่นใจ...

การเดินทางไปยังที่หมายนั้นเราเดินลัดเลาะไปตามน้ำตก ระหว่างทางเราด้พกับพันฐ์ไม้และร่องรอยของสัตว์ออกมาหากิน มีทั้งรอยเท้าของเก้ง เลียงผา หมูป่า หรือแม้กระทั้งหมี ก็ยังมี ส่วนนกนั้นคงไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้กี่ชนิด แต่ที่แน่ๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นฝูงนกเงือกบินเป็นร้อยตัว....

สัมภาระเราเตรียมพร้อม เต้น มีด เหล็กยิงปลา แว่นดำน้ำ ขาดไม่ได้คืออาหารแห้งและยา เพราะทริปนี้เราจะนอนกันในป่าแห่งนี้สองคืน ระหว่างทางเรายิงปลาเก็บเรื่อยๆเพื่อเป็นข้าวมื้อข้างหน้า


ยังงัยเราก็ลุย

โชคดีระหว่างทางพบกับต้นไม้ชนิดหนึ่ง เขาว่ากันว่าพบหาได้ยาก เห็นชาวบ้านเขาเรียก กระโทนพรรณรายณ์ หรือ กระโทนฤษี

รอดแล้วงานนี้

มื้อแรกในป่าเขาแห่งนี้คือต้มยำปลเพงตัวบิ๊ก (ใส่เครื่องบะหมี่ซือดะรสต้มยำ...มื้อต่อไปก็กินบะหมี่สดไม่เครื่อง...เหอๆ)

คืนแรกเรานอนกันที่เพิงหินเปนถ้ำขนาดเล็ก จุคนได้ประมานแปดคน เวลานอนเราต้องตั้งเวรดูไฟที่ก่อไว้ด้านหน้าทางเข้าเพื่อกันสัตว์ป่าเข้าไป

เช้าวันใหม่เราตื่นขึ้นมาพร้อมบรรยากาศเต็มไปด้วยหมอก (หนาวมั๊กๆ)บวกกับมื้อเช้าเรามีขนมปังกับกาแฟในกระบอกไม้ไผ่หอมกรุ่นไม่บอกใคร ^_^

เราเตรียมข้าวของพร้อมที่เดินทางต่อ....ปลายทางอยู่ที่โตนพญานาค...

เบื่องหลังเราที่เห็นนั้นคือภูเขาที่สลับสับซ้อน สุดสายตาคือทะเลอันดามัน ทีนี่คือโตนพญานาคที่เรารอคอย

ณ จุดนี้เราเห็นฝูงนกเงือกบินเปนร้อยต้วเลยทีเดียว ส่วนเบื่องหน้าของเรานั้นคือหน้าผาสูงชันมีไอน้ำฟุ้งกระจายจากน้ำตกอย่างสวยงาม....

เราตั้งใจจะกางเต้นนอนกันคืนนี้ที่นี่ เพราะบรรยากาศจุดนี้ถูกใจเหลือเกิน....

มื้อค่ำข้าวสวยกับปลาเพงย่างเกลือ สุดยอด!!!

แถมอีกนิดกับของหวานถั่วเขียวต้มยามดึก ตามด้วยกาแฟกระบอกไม้ไผ่(มะไช่กัญชาน่ะวุ้ย!!!)แล้วนอนชมดาว....

วันรุ่งขึ้นเราเก็บของเตรียมตัวเดินทางลงไปเรื่อยๆพร้อมกับยิงปลาสำหรับมี้อเที่ยงเสบียงที่เราเตรียมกันมานั้นตอนนี้เหลือเพียงข้าวสารกับเกลือ แต่ขอบอกเลยว่าเป็นมื้อสุดท้ายอร่อยที่สุดเท่าทีอยู่ในป่าเขาแห่งนี้ทั้งสามวันสองคืน... (รสชาติของคำว่าข้าวคลุกเกลือมันอย่างนี้นี่เองงงงงงงงงงงงง!!!!)

เราถึงหมู่บ้านในเย็นวันนั้นเวลาประมาณ ห้าโมงเย็น โดยมีชาวบ้านมารอเป็นสิบคนเพราะหากว่าเราไม่ลงมาจากน้ำตกตามเวลาที่ว่าไว้ชาวบ้านจะขึ้น ไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยทัน อย่างที่ว่าตลอดสามวันที่เราอยุ่ข้างบนเราไม่สารารถติดต่อใครได้เลย เพราะไม่มีคลื่นโทรศัพท์เลย...








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น